
All New Fortuner 2015 … New legend of the pride เหนือนิยามแห่งศักดิ์ศรี
โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ 2015 โฉมใหม่…ที่มาพร้อมความดุดัน แข็งแรง และดีไซน์สปอร์ตสวยงามอีกหนึ่งรถยนต์อเนกประสงค์ SUV ที่ได้รับความนิยมตลอดกาล และ ยังมาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์บล๊อกใหม่ ระบบความปลอดภัยชั้นสูงให้คุณอุ่นใจทุกการเดินทางกับ Toyota Fortuner ใหม่

ราคา All New Toyota Fortuner 2015-2016 โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่
รุ่น 2.4G 6MT 2WD ราคา 1,199,000 บาท.
รุ่น 2.4V 6AT 2WD ราคา 1,369,000 บาท.
รุ่น 2.7V 6AT 2WD ราคา 1,449,000 บาท.
รุ่น 2.8V 6AT 2WD ราคา 1,529,000 บาท.
รุ่น 2.8V 6AT 4WD ราคา 1,599,000 บาท.
ยนตกรรมอเนกประสงค์ตัวจริง ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ พร้อมความมั่นใจในทุกการขับขี่ ที่ได้รับการพัฒนา เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ทั่วโลก ด้วยจุดเด่น 4 จุดหลัก ดังนี้

1. NEW LEGEND OF DESIGN – นิยามใหม่แห่งดีไซน์ ด้วยดีไซน์ใหม่ของรถอเนกประสงค์แห่งอนาคตกับรูปลักษณ์แห่งความแข็งแกร่ง ดุดันและทรงพลัง แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์กับเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวและพริ้วไหว ทั้งภายในและภายนอก
ภายนอก All New Toyota Fortuner 2015-2016
– ไฟหน้า Bi-Beam LED – สะท้อนภาพลักษณ์สุดโดดเด่น ด้วยไฟ LED โปรเจคเตอร์ แบบ Bi-Beam เจิดจรัสเหนือใคร
– กระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์โฉบเฉี่ยว – บ่งบอกความภูมิฐานด้วยลายเส้นหน้าของกระจังหน้า ดีไซน์ลงตัวกับแนวกันชนหน้า
– เสารับสัญญาณวิทยุ ดีไซน์ล้ำแบบ Shark Fin – สะท้อนรสนิยมเหนือระดับ เติมอารมณ์สปอร์ตเต็มขั้น
– กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว พร้อมระบบ Welcome Light – ผสานความโดดเด่นอย่างลงตัว ทุกองศาสะท้อนความเหนือชั้นแห่งการเดินทาง
– ไฟตัดหมอก หน้าและหลัง – เติมเต็มทัศนวิสัยที่ชัดเจน ให้ทุกการขับขี่ปลอดภัยอย่างแท้จริง
– สปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED – เรียบหรูล้ำสไตล์ ดีไซน์ลงตัว พร้อมสะกดทุกสายตา
– ล้ออัลลอย 18 นิ้ว – บ่งบอกศักดิ์ศรีที่เหนือใครในทุกเส้นทาง
– กันชนท้ายดีไซน์ล้ำ – เผยความลงตัวของดีไซน์ด้านท้าย ไปกับความโดดเด่นเหนือชั้นในทุกมุมมองรอบคัน
– ราวหลังคา – เสริมภาพลักษณ์แห่งความโดดเด่น ด้วยดีไซน์สไตล์สปอร์ต
– ไฟท้าย LED แบบ Light Guiding – เท่เกินใครในทุกองศา ไฟประกายแสงเด่นชัด มองเห็นจากระยะไกล เสริมความปลอดภัยไปอีกขั้น
– ประตูท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ (Power Back Door with Jam Protection) – สะดวกสบายเหนือระดับ ตอบรับชีวิตสไตล์หรูในแบบคุณ
– ที่ปัดน้ำฝนกระจกหลังพร้อมระบบไล่ฝ้า เพื่อมุมมองการขับขี่ที่ดียิ่งกว่า
– กล้องมองหลัง – เพิ่มความมั่นใจด้วยทัศนวิสัยใหม่แห่งการขับขี่ ตอบรับความปลอดภัยอย่างเหนือระดับ (ยกเว้นรุ่น 2.4G MT)

2. NEW LEGEND OF UTILITY – นิยามใหม่แห่งการใช้ชีวิต ด้วยห้องโดยสารขนาดใหญ่ โอ่โถงกว้างสบาย เพียบพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเหนือระดับ สู่ขีดสุดแห่งสุนทรียภาพการขับขี่สมบูรณ์แบบ
ภายใน All New Toyota Fortuner 2015-2016
– มาตรวัดเรืองแสงดีไซน์ล้ำแบบ Optitron – เผยภาพลักษณ์แห่งความโดดเด่น ด้วยดีไซน์สไตล์ล้ำของช่องมาตรวัด ที่เชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียว เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
– จอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID (Multi-Information Display) – หน้าจอสีแบบ TFT คมชัดทุกรายละเอียด ที่สามารถปรับตั้งค่าการทำงานของระบบต่างๆ พร้อมแสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการขับขี่ตลอดการเดินทาง
– เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง – เข้าถึงสัมผัสล้ำที่พร้อม ตอบทุกความสะดวกสบายที่เป็นคุณ
– ระบบนำทาง (Navigator) พร้อมเครื่องเล่น DVD และจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ T-Connect และการเชื่อมต่อ Bluetooth – ให้คุณวางแผนการเดินทางอย่างแม่นยำ พร้อมสัมผัสความบันเทิงที่ครบครัน และเชื่อมต่อโทรศัพท์เข้ากับระบบ Hands-free ในรถ
– ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ – ควบคุมแรงลมอัตโนมัติ เพื่อรักษาอุณหภูมิในห้องโดยสารให้เหมาะสม พร้อมการจัดวางที่ลงตัว เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน
– ช่องต่ออุปกรณ์ USB, iPOD และ AUX – เชื่อมต่อความบันเทิงได้อย่างหลากหลาย ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างใจ
– เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift – ดีไซน์โดดเด่นสัมผัสสปอร์ต แม่นยำในทุกจังหวะเข้าเกียร์ ตอบความคล่องตัว และความเร้าใจในทุกการขับขี่
– ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) – ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย เร้าใจทุกการขับขี่เต็มพิกัด
– กล้องมองหลัง – แสดงภาพบริเวณมุมมองด้านท้ายของรถ ช่วยให้ทุกจังหวะการถอยจอดมั่นใจเพิ่มขึ้น ตอบรับความปลอดภัยอย่างเหนือระดับ
– ระบบ Push Start – สตาร์ทเครื่องยนต์ได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
– พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์สปอร์ต พร้อมสวิตช์ควบคุม – สะดวกเหนือชั้น ด้วยสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง และจอแสดงข้อมูลการขับขี่
– เบาะปรับพับแถว 2 แบบ One Touch
– ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้ากระแสไฟฟ้า DC 12 โวลต์ และกระแสไฟฟ้า AC 220 โวลต์ – (กระแสไฟ 220 โวลต์ รองรับถึง 100 วัตต์)
– ที่เก็บแว่นตาพร้อมไฟส่องสว่าง LED
– ช่องเก็บของด้านบนแบบ Cool Box
– ที่วางแก้วสำหรับคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า
– ที่วางขวดน้ำเพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสารด้านหลัง
– ช่องเก็บของด้านข้างประตูหน้าและหลัง
– ที่วางแก้วแบบ push – open เลื่อนเก็บได้ บริเวณที่พักแขนเบาะนั่งผู้โดยสารแถวสอง
– ตะขอแขวนสัมภาระหลังเบาะคู่หน้า และบริเวณท้ายรถ
– แอร์บริเวณที่นั่งแถว 2 และ 3 พร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 ตอน

3. NEW LEGEND OF PERFORMANCE – นิยามใหม่แห่งสมรรถนะการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลระบบคอมมอนเรล เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด (GD Efficient Boost) เพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ ให้แรงบิดสูงในช่วงรอบกว้าง (Flat torque) แต่ยังประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม เครื่องยนต์ทำงานเงียบ ไอเสียต่ำเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผสานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ได้อย่างเหนือชั้น และสัมผัสใหม่กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ “ซิกม่าโฟว์” ที่สามารถตอบสนองการขับขี่ในทุกสภาพถนน
– เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร (เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด) กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ (177 แรงม้า) ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที
– เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร (เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด/เกียร์ธรรมดา 6 สปีด) กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ (150 แรงม้า) ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,000 รอบ/นาที
– เครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร Dual VVT-i* (เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด) กำลังสูงสุด 122 กิโลวัตต์ (166 แรงม้า) ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 245 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที *รองรับน้ำมัน E20
– เครื่องยนต์ GD Efficient Boot ขีดสุดพลังแรงล่าสุด ที่พร้อมพาคุณโลดแล่นเหนือขีดจำกัดภายใต้แนวคิด “Efficient Boot” ลดการสูญเสียความร้อน และแรงเสียดทานของเครื่องยนต์ ให้แรงบิดสูงสุดในรอบกว้าง Flat Torque พร้อมประหยัดเป็นเยี่ยมในทุกการเดินทาง เหนือชั้นชั้นกว่าด้วยการทำงานของเครื่องยนต์ที่เงียบและสั่นน้อยกว่า ตอบรับทุกการขับขี่ในทุกรูปแบบเต็มสมรรถนะ
-VN Turbo ทะยานล้ำเหนือขีดจำกัด ด้วยระบบเทอร์โบแปรผันใหม่ ออกแบบให้มีขนาดเล็กลงแต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ พร้อมระบบควบคุมการ เปิด-ปิดครีบปรับแรงดันอากาศด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแม่นยำสูงสุด ส่งกำลังให้แรงต่อเนื่องทุกความเร็วรอบ
– ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Stop & Start System) ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วขณะ และจะสตาร์ทเครื่องยนต์ขึ้นใหม่โดยอัตโนมัติเมื่อแตะคันเร่ง ช่วยประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น และขณะที่เครื่องยนต์หยุดทำงานเครื่องปรับอากาศจะยังคงส่งลมเย็นอย่างต่อเนื่อง
– ระบบขับเคลื่อนม่าโฟร์สัมผัสนิยามใหม่ของระบบขับเคลื่อน ไปกับเทคโนโลยีสุดล้ำที่ให้คุณเลือกโหมดการขับขี่ได้ดั่งใจ ด้วยโหมด H2, H4, L4 ผสานการทำงานร่วมกับระบบ DAC และ A-TRC ที่จะเอาชนะทุกความท้าทาย ก้าวข้ามอุปสรรคแห่งการเดินทาง (ระบบขับเคลื่อนซิกม่าโฟร์มีเฉพาะรุ่น 2.8V ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
– H2 ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ สำหรับสภาพถนนปกติ ช่วยให้ประหยดน้ำมันเป็นเยี่ยม
– ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC (Downhill Assist Control) ระบบการควบคุมแรงดันเบรกอัตโนมัติขณะขับลงทางชันช่วยควบคุมความเร็วรถให้คงที่ ป้องกันไม่ให้รถลื่นไถลลงเนินอย่างรวดเร็ว โดยผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องแตะเบรก
– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบแอคทีฟ A-TRC (Active Traction Control) เมื่อเซ็นเวฮร์ตรวจจับได้ว่าล้อใดเริ่มสูญเสียแรงขับเคลื่อขณะวิ่งผ่านพื้นผิวลื่น ระบบจะลดแรงขับที่ส่งไปยังล้อนั้นเพื่อป้องกันล้อหมุนฟรี และเพิ่มแรงขับไปยังล้อที่เหลือเพื่อเคลื่อที่ต่อไปได้อย่างราบรื่นและง่ายดาย
– ระบบกันสะเทือนหน้าและหลังระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง เพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวลและการทรงตัวที่ดีเยียม
4. NEW LEGEND OF SAFETY – นิยามใหม่แห่งความปลอดภัยเหนือระดับ สร้างความอุ่นใจในการขับขี่ เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก ทั้งแบบปกป้อง และแบบป้องกัน
– ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control) ระบบระเพิ่มแรงดันเบรกไปยังล้อทั้ง 4 อัตโนมัติ ป้องกันรถไหลในจังหวะออกตัวบนทางลาดชัน เพื่อความมั่นใจในทุกสถานการณ์การขับขี่
– ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control) เซ็นเซอร์จะปรับแรงดันเบรก และกำลังของเครื่องยนต์ให้เหมาะสม เมื่อวิ่งบนถนน ขรุขระ หรือใช้งานลากจูง และเผชิญลมพัดขวางรุนแรง ช่วยรักษาเสถียรภาพ ป้องกันรถส่ายหรือเสียการทรงตัว
– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Trailer Control) ป้องกันการเกิดอาการล้อหมุนฟรีเมื่อขับอยู่บนผิวถนนที่ลื่นซึ่งเป็นสาเหตุของการลื่นไถลทำให้รถเสียการทรงตัว
– ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) ตรวจวัดระบบการทรงตัวของรถ และควบคุมรถให้ทรงตัวอย่างมั่นคง แม้ในทางโค้งหรือถนนที่เปียกลื่น โดยสั่งการให้เครื่องยนต์ลดความเร็วอัตโนมัติ และเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกไปยังล้อเพื่อประคองการทรงตัวที่ลื่นไถลให้กลับสู่การทรงตัวที่สมดุล
– ระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System) ป้องกันล้อล็อกและการลื่นไถลจากการเบรกกะทันหัน ช่วยให้คุณสามารถควบคุมรถได้ แม้ในสถานการณ์คับขัน
– ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) ในสภาวะฉุกเฉินและแรงเบรกจากผู้ขับไม่เพียงงพอต่อการหยุดรถ ระบบจะเพิ่มแรงเบรกอัตโนมัติเพื่อช่วยให้สามารถหยุดรถได้ในระยะที่ปลอดภัย
– ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution) ปลอดภัยทุกการขับขี่ โดยระบบช่วยการจายแรงเบรกในแต่ละล้ออย่างสมดุล เพื่อป้องกันอาการท้ายสะบัด และการจายแรงเบรกล้อซ้าย-ขวาในขณะเข้าโค้ง เพื่อการควบคุมที่ดีขึ้น
– ไฟส่องสว่างตอนกลางวันแบบ LED (Daytime Running Light) สามารถมองเห็นได้จากระยะไกลเสริมความปลอดภัยอย่างเหนือระดับ
– ดิสท์เบรกขนาดใหญ่ เพิ่มความมั่นใจในทุกจังหวะเบรก
– ที่ปัดน้ำฝนกระจกหลังพร้อมระบบไล่ฝ้า เพื่อมุมมองการขับขี่ที่ดียิ่งกว่า
– ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ช่วยให้ผู้ขับขี่ที่ตามมาด้านหลังสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
– รัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.8 เมตร คล่องตัวในทุกสถานการณ์การขับขี่
– กล้องมองหลัง เพิ่มความมั่นใจด้วยทัศนวิสัยใหม่แห่งการขับขี่ ตอบรับความปลอดภัยอย่างเหนือระดับ (ยกเว้นรุ่น 2.4G MT)
– เซ็นเซอร์กะระยะการถอยหลัง เพิ่มความปลอดภัยในทุกการเข้าจอดหรือถอย (เฉพาะรุ่น 2.4)
All New Toyota Fortuner 2015-2016
มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ 1.สีดำ 2.สีเทา 3.สีน้ำเงิน 4.สีน้ำตาล 5.สีเงิน 6.สีขาว 7.สี Super White
Cr.http://www.siaminside.com/2015/08/01/all-new-toyota-fortuner-2015-2016/